Nissan Tiida 1.8G hatchback ออฟชั่นเกินราคา
พอดีมีเพื่อนน้องชายอยากได้รถห้าประตู แล้วก็มีลูกค้าจะขายคันนี้ให้พอดี ปกติแล้วรถคันเนี้ยผมซื้อไม่ได้ เพราะราคาที่เจ้าของเค้าอยากขายเนี่ย เค้าตั้งไว้เกือบเท่ากับราคาที่ขายอยู่หน้าร้านเลย แต่พอมีเพื่อนน้องอยากได้ก็เลยฝืนซื้อมา ปรากฏว่าเค้าจัดไฟแนนซ์ครั้งแรกไม่ผ่านครับ ต้องยื่นอีกรอบถึงจะผ่าน กว่าจะเสร็จขั้นตอนก็ใช้เวลาร่วมๆ 3 เดือน อาจเป็นดวงของผมด้วยละมั้ง ทำให้ได้มีโอกาสใช้รถคันนี้อยู่พักนึง ขับไปขับมาชอบครับ กะว่าถ้าจะเปลี่ยนรถก็จะเปลี่ยนเป็นตัวนี้นี่แหละ รถรุ่นที่ผมกำลังจะพูดถึงเนี่ยก็คือ NISSAN 1.8G Hatchback ครับ
ถ้าพูดถึงความสวยงามภายนอกเนี่ย มันเป็นเรื่องของนานาจิตตัง ถ้าจะให้ฟันธงไปเลยว่า สวย โฉบเฉี่ยว โน่น นี่ นั่น ก็จะเหมือนผมเอาอารมณ์ผมมาตัดสินแค่คนเดียว เอาเป็นว่าในความเห็นผมๆเห็นว่า วัยรุ่นขับได้ ไม่ดุแก่เกินไป ผู้ใหญ่ก็ขับดูแล้วเท่ดีครับ เอาตามนี้ละกันว่าถ้าใครชอบรูปลักษณ์ภายนอกของเจ้า NISSAN 1.8G Hatchback คันนี้อยู่แล้วก็ถือว่าคุณน่าจะเจอเนื้อคู่แล้วหละ
NISSAN 1.8G Hatchback
มาถึงเรื่องของภายในของรถกันเลยดีกว่า คันที่ผมเขียนถึงนี่จะมีภายในออกเป็นโทนสีดำ มีสีของเมทัลลิกตัดตามขอบหน้าปัทม์ คอนโซล ลงตัวดีครับ วัสดุภายในถ้าให้วัดกันจริงๆผมถือว่านิสสันทำได้ดีกว่ารถในคลาสเดียวกันยี่ห้ออื่นๆที่วัสดุคล้ายกันหรือตัวเดียวกัน แต่นิสสันให้ความรู้สึกที่ดีกว่าอย่างบอกไม่ถูก เบาะหุ้มหนังสีดำ เป็นหนังแท้ผสมกับหนังเทียมในบางจุดนั่งแล้วให้ความรู้สึกนุ่ม สบายดีครับ ขับทางไกลไม่เมื่อย ในออฟชั่นตัวนี้เบาะปรับได้ 4 ทิศทาง คือเลื่อนเข้าออกแล้วก็ตัวเบาะนั่งปรับสูงต่ำได้ เสียตรงที่ไม่มีแบบปรับไฟฟ้ามาให้ ถ้ามีละก็แจ่มเลย ส่วนพวงมาลัยหุ้มหนังจับแล้วกระชับมือดี ขนาดของวงพวงลัยก็ใช้ได้ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
เบาะหลังเป็นวัสดุเดียวกับด้านหน้าถือว่าตัดเย็บเบาะมาได้ปราณีตดีครับ ไม่เสียชื่อ Nissan ว่างั้น พอเข้าไปนั่งแล้วจัดว่าสบายครับไม่คับแคบ หรือไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด เบาะหลังพับได้แบบ 40:60 เอาไว้เพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระ และที่อยากจะบอกนะครับ คือว่าเจ้า NISSAN 1.8G Hatchback มีขนาดของห้องโดยสารที่กว้างที่สุดเมื่อเทียบกับรถห้าประตูในแบบเดียวกัน
มาถึงอุปกรณ์ที่ให้มาบ้างนะครับ ในรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มครับ มีกุญแจแบบ Keyless entry คือไม่ต้องไขกุญแจเวลาจะเปิดรถ ขอแค่มีกุญแจไว้ไกล้ๆก็เปิดประตูได้ละ เวลา Start ก็ไม่ต้องเสียบกุญแจ สามารถบิดที่ปุ่ม Start ได้เลย ไฟหน้าอัตโนมัติ ( อันนี้เลือกได้ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ เพราะบางทีเวลาขับใต้ทางด่วนตอนกลางวันมันก็เปิดเอง แอบอายรถที่ส่วนมาเหมือนกัน ) กระจกไฟฟ้า กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า หน้าปัทม์แบบเข็ม บอกรายละเอียดต่างๆของรถได้ชัดเจนดี ขาดก็แต่ไม่มีตัวบอกระดับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ จะใช้เป็นตัวสัญลักษณ์รูประดับน้ำในกรอบของตัววัดรอบขึ้นเตือนเป็นสีฟ้าเวลาเครื่องเย็น สีแดงเวลาอุณหภูมิสูงเกินขีดความปลอดภัย ซึ่งผมเองเป็นโรคชอบดูมาตรวัดความร้อนซะด้วยสิ เลยรู้สึกว่ามันขาดๆอะไรไปซักอย่างบอกไม่ถูก
อีกอย่างในรุ่นนี้จะยังไม่มีปุ่มปรับเครื่องเสียงที่พวงมาลัยนะครับ จะมีในตัวที่ Minor change แล้ว แต่ถ้าอยากใส่ก็สามารถทำได้นะครับเพราะมีสายไฟเดินมารอที่หลังพวงมาลัยอยู่แล้ว แค่ไปซื้อปุ่มกับที่ครอบด้านข้างพวงมาลัยมาใส่ก็พอไม่กี่ตังค์
มาถึงเรื่องของเครื่องยนต์กันบางครับ รถออฟชั่นนี้ ใช้เครื่องยนต์รหัส MR18DE ขนาดความจุ 1798 CC แบบสี่สูบเรียง DOHC 16V CVTC ( Continuously Variable-valve timing control ) หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ ( ECCS ) 32 bit แรงม้าสูงสุง 126 แรงม้าที่ 5200 รอบ แรงบิด 17.7 กก.-ม. ที่ 4800 รอบ เรียกได้ว่าพอใช้ครับแต่ไม่ถึงกับปรู๊ดปร๊าดซะทีเดียว ถ้าชอบรถแบบกดแล้วมีคความรู้สึกของแรงดึงของเครื่องแบบสะใจแล้วละก็ บอกได้เลยครับว่าเจ้า NISSAN 1.8G Hatchback คันนี้คงไม่ใช่ตำตอบของคุณแต่ถ้าใช้ขับแบบทั่วๆไปก็ถือว่าพละกำลังก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไรมากครับ
มาถึงความรู้สึกของช่วงล่างกับพวงมาลัยในการขับดูบ้าง เจ้า NISSAN 1.8G Hatchback ใช้พวงมาลัยแบบ แร็คแอนด์พิเนี่ยน มีระบบเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง ถือว่าเซ็ตมาได้ลงตัวครับ ไม่หนักหรือเบาเกินไป แต่มีข้อเสียตรงที่เวลารถเคลื่อนไปช้าๆแล้วหักเลี้ยวมากๆอย่างเช่นเวลาเลี้ยวเข้าซอย หรือ U-tern จะมีเสียงดังกึกๆ ทำให้รู้สึกขับแล้วไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่ผมลองเอาเข้าไปถามที่ศูนย์แล้ว ช่างใหญ่ในศูนย์เค้าบอกว่าเป็นทุกคันครับสำหรับรุ่นนี้ รวมถึงตัวสี่ประตูด้วยนะครับ เกิดจากยอยพวงมาลัย ถ้าเปลี่ยนใหม่ก็จะหายไปซักพัก แต่เดี๋ยวก็จะเป็นอีก แก้ไม่หายครับ เลยไม่ต้องเปลี่ยนดีกว่า สามารถขับได้ ไม่มีอะไร เพราะจะเกิดก็ต่อเมื่อเวลาหักเลี้ยวมากๆเท่านั้น แล้วก็เป็นแค่เสียงที่ทำให้รำคาญเท่านั้นไม่มีผลใดๆกับการควบคุมตัวรถ
มาถึงช่วงล่างกับบ้างครับ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล้กกันโครง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ ทอร์ชันบีม รูปตัว H พร้อมเหล็กกันโครง ตอนแรกที่ขับไม่ชอบครับเพราะเจ้าของเดิมใส่สปริงแต่งกับยางแก้มเตี้ยมา แข็งมาก กระด้างสุดๆ เลยไปจัดสปริงเดิมจากศูนย์มาชุดนึง จับเปลี่ยนเข้าไป ใช้ยางเดิม ผลปรากฏว่านุ่มขึ้นทันตาเห็นครับ เข้าโค้งที่ความเร็วประมาณ 110 ก็ไม่มีอาการดื้อโค้ง หรือเหินลมให้เห็นจัดได้ว่าเป็นรถที่เซ็ตช่วงล่างมาลงตัวดีครับ ขับแล้วมั่นใจ เบรคด้านหน้าเป็นดิสก์เบรค ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัม เอาอยู่ครับ ประทับใจ ไม่ตื้นเกินไปหรือลึกเกินไป ความรู้สึกเวลากดแป้นเบรคถือว่าเยี่ยม ชอบครับไม่รู้จะอธิบายยังไงนะ แต่ผมรู้สึกว่าน้ำหนักมันไม่หลอกเท้าดี
พอดีรถคันนี้ติดแก๊สมาด้วย เป็นแบบเชื้อเพลิง LPG หัดฉีด ผมเลยไม่ได้ลองจับอัตราสิ้นเปลืองของน้ำมันเท่าไหร่ ถ้าเป็นแก๊สอยู่ราวๆ 1.10 บาท/กิโลเมตร ก็ประมาณ 11-12 กิโลเมตร/ลิตร ( อันนี้ขึ้นกับการจูนระบบแก๊สด้วยนะครับ ถ้าจูนไม่ดีอาจจะเปลืองมากกว่านี้ ) ขับแบบใช้งานจริงในเมือง เหยียบบ้าง ติดบ้าง อะไรประมาณนี้ แต่ถ้าหาข้อมูลตามเว็บเช่นใน Tiida club ส่วนใหญ่เค้าบอกว่าถ้าเป็นน้ำมันขับที่ราวๆ 80-100 จะอยู่ที่ 13 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับผมจัดว่าใช้ได้ครับ ถือว่ากินแบบปกติของเครื่องขนาดนี้
มาถึงเรื่องการบำรุงรักษากันบ้าง จะซื้อรถมือสองหลายคนคงคิดถึงเรื่องนี้กันพอสมควร อาจจะเป็นเรื่องหลักๆเรื่องนึงเลยก็ได้ สำหรับรถรุ่นนี้ยังเป็นรถที่ปีไม่เก่ามาก ยังเข้าศูนย์ได้ หรือถ้ากลัวว่าเข้าศูนย์แพง ก็ใช้วิธีว่าเราไปซื้ออะไหล่จากศูนย์มาให้อู่ข้างนอกที่ไว้ใจกันเปลี่ยนก็ได้ เพราะจริงๆแล้วอะไหล่ของศูนย์หลายคนอาจจะมองว่าแพงเมื่อเทียบกับมือสอง แต่ถ้าลองถามราคากันดูจริงๆ ของมือหนึ่งเบิกศูนย์จะแพงกว่าของมือสองราวๆ 30-40 % ถ้าของราคา 1000 ก็แพงกว่า 300-400 ถ้าเทียบกันแล้วคุ้มกว่าครับ เพราะของมือสองซื้อมารับประกันให้มากสุดก็สองอาทิตย์ ถ้าหลังจากนั้นพังขึ้นมาก็ไม่รู้จะไปเอาอะไรกับใคร ใช้ของศุนย์ดีกว่าครับ เจ็บแต่จบ ส่วนเรื่องอู่ผมมีอู่ประจำอยู่ ถ้านิสสันก็ต้องอู่พี่ควงที่เทพารักษ์ ซอยน้ำผึ้ง 2 เข้าไปจากปากซอยราวๆ 200 เมตรอู่อยู่ขวามือ ที่นี่เจ๋งจริงครับ
สุดท้ายละ เอาเป็นแบบสรุปๆเลยแล้วกันนะครับ รถรุ่นนี้เทียบกับราคาในท้องตลาดตอนนี้แล้วจัดได้ว่า ออฟชั่นเกินราคาครับ ห้องโดยสารกว้าง เครื่องยนต์ใช้ได้ดี ไม่อืดเกินไป ( เวลาพูดถึงนิสสันส่วนใหญ่จะบอกว่าอืด ) แต่ก็ไม่ถึงกับปรุ๊ดปร๊าด ใช้งานทั่วไปจัดว่าใช้ได้ ช่วงล่างนุ่ม เกาะถนนได้ดี พวงมาลัยมีปัญหาเล็กน้อย แต่ไม่ได้ส่งผลในการขับขี่หรือการควบคุมรถ รถใช้ได้ทนทาน ติดแก๊สก็สบายเครื่องไม่พังง่ายเหมือนกับรถยี่ห้อ H.... และที่สำคัญราคาของรถมือสองเมื่อเทียบกันแล้ว เจ้า NISSAN 1.8G Hatchback ถูกกว่ารุ่นอื่นในปีเดียวกันแบบเห็นๆ จัดได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจตัวนึงทีเดียวสำหรับผู้ที่ต้องการหารถมือสองดีๆมาใช้ซักคัน
ธนกฤต
http://www.154car.com