ช่วงครึ่งหลังของปี 2556 นี้เป็นช่วงที่ราคารถมือสองในท้องตลาดค่อนข้างที่จะตกลงมามากพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นโอกาสทองของคนที่อยากจะหารถมือสองสภาพดีๆราคาย่อมเยาเอาไว้ใช้กันเลยทีเดียว ผมเองก็มีรถที่ผมใช้เองอยู่คันนึงซื้อมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ราคาตกไปจากตอนที่ซื้อประมาณแสนห้า เลยอยากจะแนะนำรถรุ่นนี้ไว้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถดีๆราคาไม่แพงมาไว้ใช้ซักคัน รถที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ Nissan Cefiro ครับ Nissan Cefiro ที่ผมจะเขียนถึงในวันนี้เป็นโฉม A33 ตัว 3.0 VQ Brougham VIP ซึ่งเป็นรถที่ผมใช้เองอยู่ทุกวัน จุดเด่นของเจ้ารถรุ่นนี้หลักๆคือขับสบาย เครื่อง V6 ในตระกูล VQ นิ่งมากๆครับ เสียงไม่ดัง(เฉพาะตอนคอมแอร์ไม่ทำงานนะ ไม่รู้เสียงคอมแอร์จะดังไปไหน ) เครื่องวิ่งดีมากๆ ช่วงล่างนิ่มนวลครับ และที่สำคัญเบาะมันโคตรสบายเลยครับ ใหญ่โตมากๆ เอาหละมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ
ภายนอก(Exterior) เรื่องของความสวยงามเนี่ยพูดกันยากเพราะมันเป็นเรื่องความชอบของแต่ละคนที่อาจจะต่างกันบ้าง เหมือนกับในรถรุ่นนี้ที่บางคนบอกว่ามันแก่ครับแต่ในความรู้สึกของผม ผมว่ามันก็ลงตัวดีนะ (หรือว่าตัวผมก็แก่ด้วย เลยรู้สึกว่ามันไม่แก่) เส้นสายของตัวถังมันดูไม่รกดี บวกกับการออกแบบตามหลักแอโรไดนามิกด้วยแล้ว ทำให้รู้สึกว่ามันพลิ้วไปตามตัวรถดีครับ เรามาดูกันที่ด้านหน้าก่อนดีกว่าครับ
ด้านหน้า การออกแบบหลักๆของมันก็ตามแนวทางของตัวรถที่ต้องเน้นหรูไว้ก่อนนั้นเอง คันนี้เป็นรุ่น 3.0 VQ Brougham VIP ไฟคู่หน้าก็เลยเป็นไฟ XENON ครับ มีไฟตัดหมอกมาให้ด้วย แถมมีลูกเล่นอีกอย่างคือ เวลาเราเปิดไฟเลี้ยวตอนกลางคืนไฟตัดหมอกฝั่งที่เราเปิดไฟเลี้ยวมันจะเปิดตามด้วยครับ
ด้านข้าง ก็คล้ายๆ กับด้านหน้าแหละครับการออกแบบดูแล้วเรียบๆ แต่ก็มีคิ้วด้านข้างที่มีแถบมีโครเมียมนิดๆทำให้ดูมีสีสันขึ้นเล็กน้อยเสริมด้วยสเกริต์ด้านล่าง ล้อแมกซ์ขอบ16 นิ้ว ซึ่งโดยรวมผมว่ามันก็ดูเข้ากันดี สวยไปอีกแบบนะครับ
ด้านหลัง ใช้การเล่นมุมโค้งที่ขอบกันชนเพือทำให้ตัวรถดูพริ้วๆ ที่ขอบกันชนด้านล่างจะออกแบบมาให้มีส่วนหยักเข้าไปนิดนึงเพื่อทำให้ดูแล้วรถดูมีความเป็นสปอร์ตนิดๆ โทนสีของแสงที่ออกมาจากไฟหลังถือว่าชัดเจนดีครับ แต่ไม่มีไฟตัดหมอกมาให้นะธรรมดาๆ เลยหละ เห็นเค้าว่ากันว่ากันชนรุ่นนี้ถ้าชนที่ความเร็วไม่เกิน 20 กม./ชม.จะเด้งออกมา ผมเองก็ยังไม่เคยลองถ้าใครอยากรู้ว่าจริงมั้ยก็คงต้องไปลองกันเอง ตรงกับคำพูดที่เคยได้ยินกันบ่อยๆว่า “อย่าเชื่อคนง่าย”
เรามาเปิดประตูเข้าไปดูข้างในรถกันดีกว่าครับ เมื่อปลดล็อกประตูก็จะมี Welcome light สีนวลๆที่ให้ความรู้สึกหรูๆนิดนึง แล้วถ้าเปิดในตอนกลางคืนก็จะเห็นไฟที่ขอบประตูช่วยส่องให้ดูว่าเราเผลอทำของต่างๆหล่นอยู่หรือเปล่า สำหรับผมนี่มีประโยชน์สุดๆครับเพราะผมชอบทำกุญแจรถหล่นบ่อยๆ การเข้าออกทางด้านประตู เป็นไปได้อย่างง่ายได้ครับ พื้นที่ในการเข้า-ออกรถมีมาให้ค่อนข้างเยอะ ความสูงรวมถึงความกว้างของประตูที่ค่อนข้างยาวทำให้คนสูงๆหัวไม่โขกนะครับ
ทางด้านเบาะคู่หน้า ทำออกมาได้ดีครับ โอบกระชับได้กำลังดีฟองน้ำที่หนุนหัวก็ไม่แข็งและไม่นิ่มจนย้วยเกินไป การตัดเย็บก็ดูปราณีตเรียบร้อย เป็นจุดๆนึงที่ทำให้ผมชอบรถคันนี้มากๆครับ ความยาวของเบาะนั่งก็รองรับต้นขาได้พอดี ไม่สั้นจนเกินไป เบาะคู่หน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้าทั้งหมด แต่ไม่มี memory นะครับ ด้านซ้ายเป็นปรับแบบ4ทิศทาง ด้านขวาแบบ6ทิศทางครับ
ด้านเบาะคู่หลัง ใหญ่โตจริงๆ การตัดเย็บของหนังทำได้เนี๊ยบเลย แต่จุดเด่นหลักอยู่ที่มุมเอียงที่รองรับไหลและต้นขาได้พอดีเลยครับ แต่อยากจะตินิดหน่อยตรงที่ที่รองแขนที่ประตูถ้าจะยาวกว่านี้อีกสักหน่อยจะสบายกว่านี้มากๆครับ แต่ผมกล้าพูดนะว่ามันเป็นรถที่นั่งสบายและหรูหรามากที่สุดเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกันในยุคสมัยนั้น
เอาหละมาดูคอนโซลกลางกันเลยดีกว่า คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุแบบนิ่ม เสริมด้วยลายไม้ ( รุ่นที่ผมเขียนถึงเป็นรุ่นปี 2004นะครับ ลายไม้จะมีสีอ่อนถ้าเป็นรุ่นก่อนปี 2004 ลายไม้จะมีสีเข้มๆออกน้ำตาลครับ) คอนโซลเน้นใช้งานง่าย สะดวกต่อผู้ใช้งาน และก็มีการเล่นเส้นสายจากกลางคอนโซลลากไปถึงข้างหลังครับ ถ้าดูจากด้านบนสุดจะเป็นที่สำหรับเก็บของจุกจิกเล็กๆน้อยๆ ถัดมาจะเป็นนาฬิกาซึ่งดูง่ายดีเวลาขับรถ ตามลงมาด้วยปุ่มไฟฉุกเฉิน ระบบแอร์เป็นแบบดิจิตอลแต่ไม่แยกซ้ายขวาอิสระ ดูโดยรวมแล้วทุกอย่างจัดเรียงมาดีครับ ใช้งานง่าย
มาดูกันที่มาตรวัดความเร็วกันต่อ มาตรวัดความเร็วของคันนี้มีสัญลักษณ์มาให้เท่าที่จำเป็นครับคือ 6 สัญลักษณ์นั้นเองครับ ลูกเล่นมีไม่มากครับมีแค่ Trip A,B ครับ ในส่วนของชุดหน้าปัดชุดนี้ให้แสงชัดเจนดีครับในช่วงกลางวันแต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนคงต้องปรับให้มันมืดกว่านี้หน่อยไม่งั้นแสงแทงตาเต็มๆ สวิสต์ปรับอยู่ตรงมุมขวาของรูปครับจะปรับกันก็ต้องเอื้อมกันนิดนึงครับ ส่วนที่ด้านขวาค่อนมาทางด้านล่างของพวกมาลัยก็จะมีปุ่มยก-ลดม่านหลังไฟฟ้า ส่วนปรับ-พับกระจกมองข้าง ปุ่มปรับระดับความสูงของไฟหน้า
ด้านส่วนกลางของคอนโซลกลางจะมีเกียร์แล้วตามด้วยปุ่ม Power แล้วก็จะมีที่วางแก้วครับด้านกล่องคอนโซลกลางนั้นสามรถวางแขนได้แต่รู้สึกมันจะสั้นไปหน่อย ถ้าจะวางจริงๆต้องใช้ความพยายามนิดนึง
ทางด้านกล่องเก็บของด้านฝั่งคนขับอาจจะไม่ได้ใหญ่โตมากเพราะว่ามีคอยล์แอร์อยู่ด้านหลัง ไม่เหมือนรถสมัยนี้ที่คอยล์แอร์อยู่กลางคอนโซลแต่การซ่อมบำรุงก็จะยากไปด้วยเพราะฉะนั้นผมกับชอบแบบนี้มากกว่าครับถามว่าเก็บได้เยอะมั้ยก็เรียกได้ว่าพอประมาณครับ
ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังถือว่าใหญ่มากทีเดียว อย่างเช่นในรถของผมที่ด้านท้ายมีถังแก๊สขนาด 60 ลิตรอยู่ด้วยยังสามารถใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้อีก
สมรรถนะทางด้านเครื่องยนต์
เจ้า Cefiro A33 3.0 VQ Brougham VIP ตัวนี้ใช้เครื่องตระกูล VQ รหัส VQ30DE รายละเอียดทางด้านเครื่องยนต์เป็นแบบ V6 DOHC 24 วาล์ว ปริมาตรความจุ 2988 ซี.ซี. ความกว้างกระบอกสูบ 93.0 มม. ความยาวช่วงชัก 73.3 มม. กำลังสูงสุด 220 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 28 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาทีครับ เครื่องตัวนี้ลดการบำรุงรักษาทางด้านสายพานโดยการใช้โซ่ขับเพลาราวลิ้นแทนครับ
ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 4 จังหวะครับ มีโหมด Power และ Overdrive มาให้ เวลาขับจะมีอาการกระตุกในช่วงเปลี่ยนเกียร์ 1-2 ให้รู้สึก (รถไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับแต่มันเป็นปกติของรถรุ่นนี้อ่ะ) แต่ในจังหวะอื่นก็เปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวล เกียร์ตัวนี้ผมว่าใช้งานได้ดีทีเดียว การเซ็ตต่างๆถือว่าทันเท้าดี ยิ่งเวลาคิกดาวน์ เร่งแซงนี่หายห่วงครับ
ช่วงล่างของรถรุ่นนี้ด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต คอยล์สปริง โช็คพร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังแบบกึ่งอิสระมัลติลิงค์บีม คอยล์สปริง โช็ค พร้อมเล็กกันโคลง ระบบพวงมาลัยแบบ แร็คแอนด์พีเนี่ยน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง ระบบเบรกเป็นแบบดิส สี่ล้อพ่วงด้วยระบบABS/EBD/BA ครับ ถ้าให้พูดโดยรวมในเรื่องการควบคุมรถก็ต้องบอกว่าดีครับ ช่วงล่าง set มาแนวนิ่มๆ แต่เวลาลงหลุมหรือขึ้นเนินหลังเต่าช่วงล่างด้านหลังก็ตึงตังเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน สำหรับเจ้า Cefiro A33 ตัวนี้ถ้าจะให้เอาไปสาดโค้งสนุกๆผมว่าไม่เหมาะนะ เพราะขณะเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆ รถจะมีอาการโยนตัวเล็กน้อย ก็อย่างว่าแหละครับ อยากให้มันนุ่มก็ต้องแลกกันหน่อย ด้านระบบพวงมาลัย น้ำหนักกำลังดีไม่เบา ไม่หนักเกินไป ระยะฟรีมีให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่ก็จัดได้ว่ายังคมดีอยู่ ขับในเมืองเวลาจะเปลี่ยนเลนถือว่าตอบสนองได้ดี แต่ที่ความเร็วสูงๆน้ำหนักดูจะเบาไปนิด แต่รวมๆแล้วเวลาขับก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเครียดอะไร อาจจะมีข้อด้อยอยู่หน่อยตรงระบบเบรก เพราะมันคล้ายๆจะมี 2 ก๊อกอ่ะ คือถ้าเหยียบไปไม่ลึกมากรถจะรถความเร็วมาให้อย่างช้า นิ่มนวลแต่ถ้าเหยียบลงไปลึกอีกสักหน่อยแล้วเร็วรถจะหยุดให้คุณอย่างเร็วแบบเกือบจะทันทีเลยหละ ทำให้ต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับน้ำหนักในการกดแป้นเบรคซักพักครับ
อัตราสิ้นเปลื้อง ต้องขอออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมเอารถไปติดแก๊สมา อัตราสิ้นเปลืองของน้ำมันนี่ผมไม่ขอพูดถึงแล้วกันนะ เพราะช่วงหลังๆนี่แถบไม่ใช้น้ำมันเลย ใช้เฉพาะตอนเครื่องยังเย็นๆในช่วงเช้าเท่านั้น แต่ถ้าเป็นแก๊สแอลพีจีก็ใช้อยู่ราวๆ 2 บาท/กิโลเมตรสำหรับในเมือง แต่ถ้าวิ่งทางไกลก็จะลดลงมาเล็กน้อยเป็นประมาณ 1.75-1.80/กิโลเมตร ( ขณะที่เขียนแก๊สแอลพีจีราคาอยู่ที่ 12.99 บาท/ลิตร )
แต่รถรุ่นนี้มีปัญหาสำคัญอยู่อย่างนึงนะครับการดูแลรักษาระบบระบายความร้อน พวกปั้มน้ำ วาวล์น้ำ หม้อน้ำ ต้องเปลี่ยนตามระยะเท่านั้น ถ้าขี้เหนียวไม่เปลี่ยนตามระยะ ถ้าเกิด Heat ขึ้นอาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องได้เลยนะ แล้วเครื่องบล๊อคนี้ไม่มีเครื่องมือสองจากญี่ปุ่นนะครับ เพราะในโฉม A33 ที่ญี่ปุ่นไม่มีรถเครื่อง 3000 ออกทำตลาด จะมีแค่ในโฉม A32 แล้วเครื่องของรถสองโฉมนี้ถึงจะใช้รหัส VQ30 เหมือนกันแต่ระบบไม่เหมือนกันนะครับ เกียร์ก็ไม่เหมือน เพราะในโฉม A33 เกียร์จะมีระบบคล้าย Shift lock ที่ทำให้รถกลายเป็นรถ 5 เกียร์เดินหน้า แต่ในโฉม A32 จะเป็นรถ 4 เกียร์เดินหน้าครับ
สรุปๆเลยแล้วกันนะครับ ผมถือว่ารถรุ่นนี้เป็นรถดีราคาย่อมเยาอีกรุ่นนึง ถ้าเทียบกับรถในปีเดียวและระดับราคาเดียวกัน เจ้า Cefiro 3.0 VQ Brougham VIP จะให้อะไรเราได้มากกว่าหลายๆอย่างเช่น นั่งสบาย , หรูหรา , ช่วงล่างนุ่มนวล เกาะถนนได้ดี , ออฟชั่นการใช้งานที่มีมาให้เช่นม่านหลังไฟฟ้า ฯลฯ แต่ในเรื่องของข้อเสียมันก็ต้องมีบ้างเอาที่เห็นชัดเลยนะ ก็คือซดน้ำมันสุดๆ ( เครื่องใหญ่ก็ต้องทำใจ ), ช่วงล่างข้างหลังยังดังไปหน่อยเวลาลงหลุมหรือขึ้นเนินหลังเต่า แต่ถ้าสำหรับผู้ที่อยากจะลองคบหากับเจ้า Cefiro 3.0 VQ Brougham VIP ตัวนี้ ถ้าคุณได้ลองใช้มันจริงๆแล้วผมรับรองเลยครับว่าคุณจะรักมัน......
ธนกฤต
www://www.154car.com